[Tomukatsu] Which one?

Paring : Shigaraki Tomura x Bakugou Katsuki

Rate : PG

P.S. : มีสปอยมังงะนะคะ เวลาที่เราลงฟิคอนิเมยังทำไม่ถึงที่เราจะเมนชั่นค่า

 


 

 

 

 

 

นี่มันก็ผ่านมาเนิ่นนานแล้วหลังจากที่บาคุโกว คัตสึกิโดนลักพาตัวโดยเหล่าลีคค์ออฟวิลเลิน

 

แน่นอนว่าช่วยกลับมาได้อย่างสำเร็จและปลอดภัย อาจมีร่องรอยถลอกปอกเปิกบ้างแต่โดยรวมก็ถือว่ายังครบสามสิบสองดี จนตอนนี้บรรยากาศภายในห้องกลับมาเป็นเช่นเดิมอีกครั้ง ทั้งเสียงตะโกนคำรามอย่างไม่พอใจของเด็กหนุ่มผู้เป็นเจ้าของอัตลักษณ์ระเบิดหรือว่าจะเป็นคำด่าที่ไม่รู้ไปสรรหามาจากไหนเองก็มีให้ได้ยินมาเป็นพักๆ และนั่นทำให้ทุกคนรู้สึกสบายใจ

 

ยกเว้นตัวของคัตสึกิเอง

 

ไม่ใช่เพราะการที่ทุกคนดูเป็นห่วงเกินเหตุจนน่ารำคาญหรือท่าทีที่เซื่องซึมของเดกุที่เห็นแล้วอยากเอาระเบิดยัดใส่หน้า หรือจะอาจารย์ไอซาว่าที่เทศนาพวกเขาเสียจนหูใช้การไปไม่ได้ครึ่งวัน จะใครหรือใครหน้าไหนในที่นี้ก็ไม่ใช่เหตุผลของความรู้สึกนี้ทั้งนั้น

“เห การบ้านเลขเหรอ… โอ๊ะ ข้อนี้ฉันรู้คำตอบล่ะ…”

 

แต่เป็นเพราะไอโรคจิตนี่

 

ไอคนที่ถือวิสาสะเข้าห้องคนอื่นโดยไม่ได้รับอณุญาตแถมยังนอนเอกขเนกบนเตียงคนอื่นอย่างสบายใจและตอนนี้มันกำลังกวนสมาธิทำการบ้านของคัตสึกิอยู่ ชายผู้มีเรือนผมหยักศกสีเงินและมือมากมายบนตัวของเขารวมถึงบนใบหน้า ดวงตาข้างซ้ายสีแดงชานที่โผล่ให้เห็นตรงง่ามระหว่างนิ้ว ริมฝีปากที่แตกแห้งและใต้ตาที่ดำคล้ำเสียจนนึกอยากบริจาคลิปบาล์มและคอนซีลเลอร์ราคาแพงให้ซักสองสามลัง

 

ชิการาคิ โทมุระ

 

หรือไอโรคจิต(ชื่อที่คัตสึกิใช้เรียกอีกฝ่าย) ผู้มีตำแหน่งยศศักดิ์เป็นหัวหน้าขององกรค์ลีคค์ออฟวิลเลินหรืออีกนัยหนึ่งก็คือคนที่สั่งให้ลักพาตัวคัตสึกิไปนั่นเอง

 

“ข้อนี้ยากจัง แต่ฉันว่ามันต้องตอบ 92 แน่ๆ นายคิดเหมือนฉันไหม?” คัตสึกิขนลุกซู่เมื่ออีกฝ่ายพูดข้างใบหูของเขา แต่เด็กหนุ่มก็ทำเมินและไม่สนใจอีกฝ่ายต่อไปเพราะเขารู้ดีว่าการที่ตัวเองยิ่งตอบโต้นั่นจะยิ่งทำให้ไอโรคจิตที่อยู่ข้างหลังเขาได้ใจ ฝ่ายโทมุระเมื่อเห็นเด็กหนุ่มบนเก้าอี้ไม่ตอบและไม่สนใจก็นิ่งไป ก่อนจะเกยคางของตนเองบนเรือนผมสีบลอนด์หม่นของอีกฝ่ายเพื่อเรียกร้องความสนใจ และดูเหมือนมันจะได้ผล เมื่อเด็กหนุ่มส่งเสียงขู่ในลำคอพร้อมกับมือที่ถือดินสอนั้นเริ่มจะสั่นระริก

 

ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นจึงเริ่มที่จะแหย่คนข้างตรงหน้าอีกครั้ง “ไม่ใช่เหรอ? ว๊า แย่จังฉันอุตส่าห์อยากช่วยนายแท้ๆ นายจะได้รีบๆ ทำให้เสร็จแล้วหันมาสนใจฉันแทนไอกระดาษน่าเบื่อนี่สะที” ป๊อก โทมุระได้ยินเสียงของอะไรบางอย่างที่เหมือนจะหักเป็นสองท่อนและเมื่อเขาก้มลงก็พบว่าดินสอแท่งนั้นได้ตายจากเด็กหนุ่มไปแล้ว ชายหนุ่มยิ้มร่าเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะระเบิดลงแล้วหันมาฝาดฟันฝีปากใส่เขาแบบจังๆ

 

แต่เขาก็ต้องผิดหวัง

 

เหมือนจะผิดแผน เพราะแทนที่คัตสึกิจะหันมาบึ้มหน้าเขาหรือกระชากคอเสื้อหรืออะไรก็ตามแต่ที่ฮีโร่ไม่สมควรจะทำกัน อีกฝ่ายเพียงหายใจเข้าแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะเปิดกระเป๋าดินสอตัวเองเงียบๆ แล้วนำดินสอแท่งใหม่ออกมาใช้ขีดเขียนคำตอบลงไปและคำตอบนั้นก็ไม่ใช่ 92

 

ช่างหัวคณิตศาสตร์สิ

 

โทมุระคิดอย่างหัวเสีย ดูเหมือนว่าวันนี้ปรอทความอดทนของอีกฝ่ายจะสูงเป็นพิเศษและมันน่าหงุดหงิดสำหรับเขา มือหยาบกร้านเคลื่อนเข้าไปใกล้อีกฝ่ายทีละนิดทีละนิด หมายที่จะบังคับศีรษะของเด็กหนุ่มให้หันมามองที่ตนเอง หันมามองฉันสิ ดวงตาของเขาเริ่มที่จะเบิกกว้างขึ้นด้วยความรู้สึกสนใจที่จะได้มองนัยน์ตาสีแดงสดของอีกฝ่ายและถ้าหากยิ่งได้สัมผัสใบหน้าเนียนนั่นด้วยแล้ว- เพียงแค่คิดกล้ามเนื้อทุกสัดส่วนบนร่างกายของเขาก็กระตุกเร้าด้วยความตื่นเต้น เมื่อนึกถึงวินาทีที่เงาในนัยน์ตาของอีกฝ่ายที่สะท้อนเป็นภาพของเขา- โทมุระฉีกยิ้ม เป็นยิ้มของคนที่ต้องการจะครอบครอง ให้ฉันได้ยินเสียงของนาย อีกเพียงปลายเส้นผมปลายนิ้วของเขาก็จะทาบทับบนเรือนผมของคัตสึกิ โต้ตอบกลับมาสิ อีกเพียงแค่นิดเดียว

 

มาเป็นของฉัน บาคุโกว คัตสึกิ

 

“ถ้าทำอะไรบ้าๆ ฉันจะเอาระเบิดตบหน้าแกอีกรอบแน่” ฝ่ามือของโทมุระหยุดกึกเมื่อได้ยินเสียงของคนที่กำลังหันหลังให้ตนเองเอ่ยขึ้นมา คัตสึกิไม่ได้หันไปมองคนที่อยู่ข้างหลังตนเองแต่เขารู้อยู่แกใจว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร แน่นอนว่าเขาไม่โง่พอที่จะปล่อยให้โทมุระทำอะไรบุ่มบ่ามแน่ เพียงแค่การมีตัวตนอยู่ของชายคนนี้ภายในห้องเขาก็รู้สึกถึงภัยอันตรายมากพอแล้ว

ทั้งหมดมันเริ่มขึ้นเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ในตอนที่เขาเพิ่งกลับมาจากโรงเรียนทั้งเหนื่อยล้าและปวดเมื่อยจนอยากจะอาบน้ำพักผ่อนเสียเต็มแก่ มือเรียวแปะเข้าที่สวิตท์ไฟของห้องแล้วกดขึ้นเพื่อให้หลอดไฟทำงานตามปกติและภาพที่ปรากฏให้เห็นก็คือสิ่งที่ไม่น่าพิสมัยเลยสักนิด ไอบ้าที่เพิ่งจะลักพาตัวเขาไปไม่กี่สัปดาห์ก่อนกำลังนอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียงของเขา คัตสึกิมองคนบนเตียงด้วยสายตาว่างเปล่าและเขาเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มจะยิ้มแย้มพร้อมโบกมือไปมาตรงระดับอกเป็นการทักทาย ริมฝีปากที่แตกและแห้งกรังนั่นเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างที่คิดว่าน่าจะเป็น สวัสดี ไม่ก็ ว่าไง แต่ในตอนนั้นเสียงของชายหนุ่มไม่ได้เข้าสู่โสตประสาทของเขาเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่คัตสึกิรู้มีเพียงสองวินาทีต่อจากนั้นเขาก็ทำการระเบิดห้องตัวเองทิ้งในการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

หลังจากนั้นเขาก็ต้องลำบากหาข้ออ้างต่างๆ นานามาบอกทุกคนว่าเหตุใดถึงได้ระเบิดห้องตัวเองเละเป็นจุลขนาดนี้โดยที่ไม่ให้สาวตัวไปถึงตัวต้นเหตุได้… ใช่ว่าคัตสึกิจะไม่อยากให้ทุกคนหาโทมุระเจอแล้วจัดการให้จบๆ ไปซะ แต่ถ้าหากเขาบอกออกไปเรื่องคงวุ่นวายและความเสี่ยงที่ตัวเขาจะโดนกักบริเวณนั้นมีมากพอสมควร ทั้งยังจะต้องมีคนคอยตามติดเฝ้าตลอดเวลาอีก แค่คิดเด็กหนุ่มก็รู้สึกครั่นเนื้อตัวอยากจะระเบิดทุกอย่างให้หมดด้วยความรำคาญแล้ว

สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการที่ทุกเย็นชิการาคิ โทมุระจะเฝ้ารอการกลับมาของเขาและตัวคัตสึกิเองก็ต้องเปิดประตูมาเจอใบหน้าที่เต็มไปด้วยฝ่ามือของอีกฝ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้ แน่นอนว่าเขาเคยไล่อีกฝ่ายและผลก็รู้ๆ กันอยู่ ดูได้จากที่ไอบ้านี่ยังคงอยู่ในห้องของเขา ณ ตอนนี้ การที่ได้อยู่กับอีกฝ่ายมาร่วมสัปดาห์ได้แล้วทำให้คัตสึกิเรียนรู้ว่าโทมุระต้องการจะที่เป็นที่สนใจของเขามาก… จนมากเกินไป ถ้าหากเขาไม่พูดไม่จาด้วยหรือทำเมินเหมือนไม่มีตัวตนชายหนุ่มก็จะเริ่มอยู่ไม่สุขขยับไปมารอบเขาหรือพูดจายั่วโมโหและเด็กหนุ่มก็ขี้รำคาญเกินที่จะสามารถต้านทานการกระทำนั้นได้ แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่เขาหักดิบแบบสุดๆ และมันลงเอยด้วยการที่อีกฝ่ายผลักเขาและขึ้นคร่อม คัตสึกิที่ตกใจจึงโวยวายใส่อีกฝ่ายให้หยุดทำอะไรบ้าๆ พร้อมง้างมือขึ้นหมายจะโจมตี แต่แล้วไม่น่าเชื่อ โทมุระกลับหยุด เขาลุกขึ้นจากตัวเด็กหนุ่มก่อนจะยิ้มให้ราวกับว่าเมื่อครู่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดแปลกไม่เลยแม้แต่น้อย

 

นั่นทำให้คัตสึกิรู้ตัวว่าเขาไม่สามารถเมินใส่ชิการาคิ โทมุระได้อย่างตลอดรอดฝั่งจริงๆ

 

“ทำการบ้านเสร็จแล้วเหรอ?” ชายหนุ่มผมเงินถามพร้อมนั่งลงบนเตียงของฮีโร่มือใหม่อย่างถือวิสาสะ คัตสึกิพยักเพยิดหน้าให้อย่างขอไปทีก่อนจะเริ่มเก็บของใส่กระเป๋าตนเอง “งั้นก็มีเวลาให้ฉันแล้วใช่ไหม?”

“ฉันไม่มีอะไรให้ให้แกทั้งนั้นแหละ” เด็กหนุ่มกระฟัดกระเฟียดตอบในทันทีพลางหันไปมองค้อนอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์ “เมื่อไหร่แกจะกลับรังของแกไปสะทีวะ เป็นวิลเลินนี่มันว่างมากนักไง จะไปคิดแผนชั่วๆ ของแกต่อหรือจะไปตายที่ไหนก็ไป” โทมุระยิ้มอย่างชอบใจเมื่อได้ยินเสียงคำรามที่เปล่งออกมาจากลำคอของเด็กหนุ่ม ถึงแม้ว่าคำพูดคำจาจะร้ายกาจก็ตาม แต่สำหรับเขาแล้วนั่นคือสิ่งมีค่า “ยิ้มบ้าอะไรไอโรคจิต”

“อย่าอารมณ์เสียสิ” ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่ในความเป็นจริงเขากลับชอบคัตสึกิที่ต่อล้อต่อเถียงแบบนี้ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าที่ทะมึนทึงตลอดเวลา คิ้วที่ขมวดจนขึ้นปม หรือริมฝีปากที่งอลงอย่างขัดใจนั้นมันก็เหมาะสำหรับเขาไปเสียทุกอย่าง เหมาะที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับตัวเขา “มานั่งนี่สิ ฉันอยากเล่นผมของนายจัง” โทมุระเขยิบถอยหลังไปให้มีพื้นที่ระหว่างขาของตนเองก่อนจะตบลงตรงนั้นเพื่อชักชวนให้อีกฝ่ายล้มตัวลงมาด้วยกัน

“กะผีสิ” ฝ่ายคัตสึกิที่เกลียดการถูงบังคับแบบเข้าเส้นนั้นก็ปฏิเสธทันควัน “ถ้าให้นั่งกับแกฉันยอมโดนไอเนิร์ดเดกุต่อยดีกว่า” ว่าจบขาสมส่วนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อของคนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็ก้าวหมายจะไปให้ไกลจากโทมุระมากที่สุด แต่ยังไม่ทันที่จะได้ไปไหนไกลมือหยาบกร้านก็คว้าเข้าที่แขนของเขาก่อนจะลากให้เข้าหาตัวของชายหนุ่มเอง “ไอ้เวรนี่!!” เด็กหนุ่มยกมือขึ้นตามสัญชาติญาณ เขาหมายที่จะระเบิดหน้าอีกฝ่ายให้เป็นจุลแต่ชายหนุ่มผมเงินก็จับข้อมือของเขาไว้ได้ทัน “ฉันจะฆ่าแก!!” คัตสึกิดิ้นขลุกขลักพยายามให้ตนเองหลุดออกจากการกอบกุม แต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อโทมุระเลื่อนมือข้างหนึ่งลงมาจับเสื้อกล้ามสีดำที่เขาสวมใส่อยู่ก่อนจะใช้อัตลักษณ์ทำลายจุดหนึ่งของผืนผ้าให้ค่อยๆ ขาดริ้วเป็นวงกว้าง

“อ่า… แย่ล่ะสิ ทำเสื้อนายเป็นรูจนได้” เขาว่าอย่างไม่ทุกข์ร้อนก่อนจะเลื่อนนิ้วไปสัมผัสผิวบนสีข้างของเด็กหนุ่ม คัตสึกิสะดุ้งที่ถูกสัมผัสอย่างกระทันหันก่อนที่จะหันหน้าไปเขม่นใส่อีกฝ่ายอย่างคาดโทษและระแวง “ใจเย็นน่า ฉันไม่ทำอะไรนายหรอก” ว่าจบก็ใช้เรียวนิ้วลูบไปมาที่จุดๆ เดิมสลับกับการบีบเป็นพักๆ มืออีกข้างที่กำลังจับเด็กหนุ่มอยู่ก็ปล่อยออกแล้วเคลื่อนไปยังมือบนใบหน้าตนเองเพื่อแกะออกมา โทมุระวางมันไว้ข้างๆ อย่างทะนุทะนอมและเชื่องช้า ก่อนจะเลื่อนมือไปสะกิดผิวเนื้อตรงคอของอีกฝ่ายแทน

ไอนี่มันทำบ้าอะไรวะ คัตสึกิขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจและสับสน ใจหนึ่งก็อยากจะบึ้มหน้าโรคจิตข้างหลังตนเองเหลือเกิน แต่เด็กหนุ่มก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าคนแบบนี้ไม่มีทางที่จะโดนจัดการง่ายๆ ภายในตู้มเดียวแน่และหลังจากนั้นสิ่งที่จะถูกทำลายคงไม่ใช่เพียงแค่เสื้อกล้ามของเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นการเคลื่อนไหวที่เข้าท่าที่สุดในตอนนี้ก็คือนิ่งเฉย

โทมุระไล้นิ้วตัวเองไปเรื่อยเปื่อยอย่างไร้จุดหมาย เขาไม่รู้ว่าจะหยุดตรงไหนหรือบางทีอาจจะเป็นเขาเองที่ไม่อยากหยุด ศีรษะที่คลุมด้วยผมสีเงินก้มลงทาบทับกับเส้นผมสีหม่นของคนในอ้อมกอด อ่า… เหมือนขนแมวเลยแหะ ร่างสูงกว่าทำจมูกฟุดฟิดสูดกลิ่นแชมพูอ่อนๆ เข้าเต็มปอด เป็นกลิ่นที่ทำให้รู้สึกสดชื่นและให้ความรู้สึกโหยหาในเวลาเดียวกัน สักพักเขาก็ผละออกพร้อมเกยคางของตนเองไว้บนหัวของเด็กหนุ่ม นัยน์ตาสีแดงเลือดเหม่อมองไปข้างหน้าอย่างเลื่อนลอยพลางคิดอยากจะพาคัตสึกิกลับไปด้วยกันเดี๋ยวนี้แม้ในใจจะรู้ดีก็ตามว่ามันเป็นไปไม่ได้

ไม่ใช่เพราะเขาไร้น้ำยาหรือกลัวออลไมท์จนหัวหด แต่การลักพาตัวนั้นไม่ใช่ทางออกที่เขาต้องการอีกต่อไปแล้ว ชายหนุ่มต้องการความสมัครใจจากตัวของเด็กหนุ่มเอง เขาไม่อยากใช้ยาหรือบังคับให้อีกฝ่ายเชื่องเพราะทำอย่างนั้นก็ไม่ต่างจากของเล่นที่น่าเบื่อและไร้ราคา เขาไม่ต้องการให้คัตสึกิเป็นสัตว์เลี้ยงหรือหุ่นเชิดที่ทำตามคำสั่งทุกอย่างด้วยความจงรักภักดีจอมปลอม โทมุระอยากให้อีกฝ่ายเป็นตัวของตัวเองอย่างที่เป็นอยู่ ความหยิ่งผยอง เกรี้ยวกราด และทะเยอทะยานที่เป็นแกนหลักพลังในการขับเคลื่อนตนเองของอีกฝ่ายนั้นคือสิ่งที่น่าหลงไหล

 

และโทมุระไม่อยากให้คัตสึกิสูญเสียสิ่งเหล่านั้นไป

 

เหมือนกับตัวของเขาที่ไม่อยากสูญเสียความรู้สึกรักนี้ไปเช่นกัน

 

 

 

 

 


 

 

 

สวัสดีค่า ไม่ได้แวะมาซะนาน TwT จนทุกคนคงคิดว่าเราคงสาปสูญและทิ้งที่นี่ไปแล้ว 55555555

ยังอยู่นะคะ แต่วิทยาลัยเราเรียนเยอะมากค่ะ แถบไม่มีเวลาหยุดพักเลย รู้สึกเหมือนโดนสูบพลังชีวิตเลยค่ะ Orz

แต่ช่วงนี้กำลังติ่งคัตจังค่ะ เลยคลอดฟิคออกมาอย่างงงๆ จนตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจเลยค่ะว่าพลอตมาตอนไหน แล้วเขียนเสร็จไปเมื่อไหร่  XD

ขอโทษนะคะสำหรับคนที่รออยู่ ที่เราห่างหายไปนาน ต่อจากนี้จะพยายามแวะมาเป็นระยะๆ นะคะ TvT/

โอ๊ะ หนีมาแต่งฟิคเรื่องนี้ก็จริง แต่เรายังไม่ทิ้งโทบิโอะจังนะคะ! ยังรักอยู่ค่ะ! แต่ขอนอกใจสักพัก //โดนเตะ

แต่จะไม่เลิกแต่งโทบิโอะเคะแน่นอนค่า บางทีอาจจะมาสลับๆ กันไป

จะว่าไปนี่คงเป็นฟิคสั้นที่เราแต่งได้สั้นจริงๆ ค่ะ (ปกติยาวพรืดจนแบ่งได้เป็นสองสามตอน) เหตุเกิดเพราะความเวิ่นเว้อและติ่งล้วนๆ ค่ะ 555555

สุดท้ายนี้ถ้ายังมีใครรออยู่ก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ และขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกัน //กระโดดม้วนตัวสามตลบแล้วกราบแทบเท้า

 

มาพูดถึงฟิคกันมาดีกว่า เอ แต่งคู่แรกนี่ก็แรร์เลยเนอะ แต่ตอนนั้นมันว้อนมากค่ะ และมีคนแต่งน้อยมากกกก จึงต้องหาอะไรสนองตัณหาตัวเอง (แต่ก็สนองได้แค่นี้จริงๆ เพราะโดนลากกลับไปเรียนต่อ)

เราคิดว่าด้วยคาแรคเตอร์ของโทมุระแล้วเขาเป็นคนน่ารัก(?)นะคะ ในที่นี้หมายถึงเป็นคนสบายๆ ยิ้มแย้ม(สุดสยอง)ค่ะ แต่เรื่องความโรคจิตจะแยกไปอีกประเด็นหนึ่ง XD

เลยคิดว่าถ้าเขาจะรักใครสักคนคงจะสับสนกับความรู้สึกที่อยากครอบครองเป็นเจ้าของกับความรักประมาณนี้ และเนื่องจากโทมุระไม่ใช่คนใจเย็นขนาดนั้น (ติสแตกทีสนั่นทั้งวงการ)

แต่เขาก็ไม่ใช่คนใจร้อนมากด้วยเหมือนกัน เพราะงั้นเขาคงจะเลือกวิธีที่ค่อยเป็นค่อยไป มาจีบสาวเจ้า(?) ถึงที่เหมือนต้องการจะสร้างความเชื่อใจ (แต่จริงๆ แล้วมันรู้สึกน่ากลัวกว่าเดิมอีก เข้ามาในห้องได้ไงเนี่ย)

ตื้อไม่เลิก แต่แน่นอนด้วยความที่เขาเองก็ไม่ได้ใจเย็นขนาดนั้นบางทีอาจะทำอะไรบางอย่างเกินเหตุไปบ้างเพราะสัญชาติญาณดิบของเขาคือการต้องการครอบครองและต้องได้มาไม่ว่าด้วยวิธีอะไรก็ตาม

แล้วทำไมโทมุระถึงไม่คลุมถุงชนคัตจังไปเลย? ทุกคนก็คงจะรู้อยู่แล้วล่ะคะ ว่าใจหนึ่งเค้าก็รู้สึกรักและถูกชะตา แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไร (คิดว่าคนอย่างโทมุระไม่น่าเคยมีความรักนะ)

เลยแสดงออกมาว่าต้องการให้คัตสึกิเป็นตัวของตัวเองเพราะนั่นคือสิ่งที่เขารัก แต่อีกครึ่งหนึ่งก็ต้องการครอบครองไม่ว่าจะต้องบังคับขู่เข็ญให้มาเป็นของตนเองก็จะทำ แต่ในสองคำพูดสุดท้ายจะเห็นได้ชัดเเลยค่ะว่าเขาต้องการอะไร แต่จะเลือกทางไหนนั้นก็ต้องดูอีกทีนะคะ XD

 

รู้สึกว่ายาวกว่าฟิคก็การบ่นของเรานี่แหละค่ะ 5555555 ขอบคุณทุกคนที่หลงมาอ่านนะคะ สวัสดีค่ะ